UFABETWINS ดราม่า “กันเนอร์สซอรัส” โดนไล่ออกจบลงด้วยดี เมื่อ อาร์เซน่อล ตัดสินใจจ้างงานเจ้าไดโนเสาร์อีกครั้ง

หลังจากที่ได้รับการผลักดันจากแฟนๆและนักเตะในทีมอย่าง เมซุต โอซิล นั่นคือเรื่องที่ทุกคนรู้.. ทว่าในอีกแง่มุมหนึ่งที่หลายคนไม่เคยเห็นคือช่วงเวลาอันยาวนานกับการสวมวิญญาณมาสค็อตสโมสรของ “เจอร์รี่ คีย์” วัย 55 ปีคนนี้ ที่จะทำให้คุณเข้าใจว่า “การทำงานที่ตัวเองรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร” ติดตามเรื่องราวของชายผู้แบกภาพลักษณ์ไดโนเสาร์อารมณ์ดี และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่แฟนๆปืนใหญ่ผูกพันสุดหัวใจและให้คุณค่ากับเขาจนชนิดที่ว่าไม่ต้องซื้อตัว

โธมัส ปาร์เตย์ ก็ได้ ขอเพียงให้ เจอร์รี่ คีย์ ได้ทำงานของเขาต่อไป ตำนานไดโนเสาร์กันเนอร์ส ทุกตำนานมีเรื่องเล่าเสมอ และ กันเนอร์สซอรัส เองก็เช่นกัน เจ้าไดโนเสาร์ตัวสีเขียว มีเขี้ยวสีขาว ที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอด 24 ชั่วโมงตัวนี้ มีจุดเริ่มต้นของมันอย่างน่าสนใจ เรื่องราวมันเกิดขึ้นในปี 1993 สมัยที่อาร์เซน่อลต่อเติมอัฒจันทร์โซนหนึ่งของสนามไฮบิวรี่ รังเหย้าในตอนนั้น “ในขณะที่การก่อสร้างส่วน North Bank ที่สนามกีฬา Highbury ในช่วงฤดูร้อนปี 1993 คนงานได้

พบกับบางสิ่งที่ดูเหมือนกับก้อนหินขนาดใหญ่” “ณ ตอนแรก ทุกคนคิดว่ามันอาจจะเป็นระเบิดจากยุคสงครามโลกที่ยังไม่ได้แกะสลัก พวกเขาจึงเอามาเช็กอย่างละเอียด ปัดฝุ่นอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งรู้ตัวอีกทีก็พบว่าแท้จริงแล้วมันคือไข่อะไรบางอย่าง มันเป็นไข่ขนาดมหึมา” “ไข่ใบนั้นได้ถูกนำไปให้ความอบอุ่น เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มคนงานเริ่มเล่ากันว่าพวกเขาเห็นมันสั่นเหมือนมีปฎิกิริยาอะไรบางอย่าง จากนั้นพวกเขาเริ่มเอาผ้าห่มลายอาร์เซน่อลมาคลุมมันอีกที

UFABETWINS

สุดท้ายไข่ก็แตกและทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็นสิ่งนี้” “มันคือไดโนเสาร์สีเขียวตัวเล็กๆ มีหางยาวเฟื้อย ในไม่ช้ามันก็ตัวโตขึ้นเป็นขนาด 7 ฟุต สามารถใส่ชุดแข่งอาร์เซน่อลและรองเท้าคู่โตเดินมอบความสุขให้กับแฟนบอล มันถูกตั้งชื่อว่า กันเนอร์สซอรัส เร็กซ์ และเกมแรกที่มันเดินลงสู่สนาม อาร์เซน่อล ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-0” นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของเว็บไซต์หลักของอาร์เซน่อล และ ESPN บอกเล่าถึงจุดกำเนิดของ กันเนอร์สซอรัส ทุกคนรู้ว่านี่คือเรื่องแต่ง

ไดโนเสาร์สูญพันธ์จากโลกนี้ไปแล้วกว่า 65 ล้านปี และเจ้าไดโนเสาร์กันเนอร์สซอรัสตัวนี้ ก็เป็นแค่มาสค็อตตุ๊กตาของสโมสรเท่านั้น ดังนั้น จะสร้างสตอรี่โกหกที่ไม่มีใครเชื่อนี้ไปเพื่ออะไร? แต่ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล ทำไมพวกเขาจึงต้องสร้างสตอรี่นี้ขึ้นมา สาเหตุนั้นเรียบง่ายมาก เพราะยังมีแฟนบอลบางกลุ่มที่พร้อมจะเชื่อและมีความสุขเมื่อได้รู้ว่าไดโนเสาร์ยังมีอยู่จริง จงอย่าลืมเด็ดขาดว่าคำว่า แฟนบอล ไม่ได้หมายถึงผู้ใหญ่ที่รู้ประสีประสาเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ยังมีกลุ่ม

เด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกหลายคนที่หลงรักสโมสรแห่งนี้ พวกเขาอาจจะเริ่มดูฟุตบอลตั้งแต่ 3-4 ขวบ แต่ที่แน่ๆคือโลกของพวกเขาเป็นโลกอีกใบที่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ พวกเขาเชื่อในสิ่งตาทั้ง 2 ข้างของพวกเขาเห็น และรักในสิ่งที่พวกเขาสัมผัสได้โดยที่ไม่ต้องใช้การหักล้างหาเหตุผล และนั่นเองคือต้นกำเนิดของ กันเนอร์สซอรัส ที่แท้จริง หุ่นไดโนเสาร์ที่มีคนใส่อยู่ข้างใน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความสุขและเสียงหัวเราะในเเต่ละเกมจากเด็กๆเหล่านี้ ภาพ

บรรยากาศการแข่งแต่ละครั้ง กันเนอร์สซอรัสจะเดินไปกระเซ้าเย้าแหย่กับแฟนรุ่นเยาว์ จากนั้นเขาก็จะปรากฎตัวในสนามก่อนที่นักเตะเดินลงสู่สนามเพื่อแข่งขันจริง ความจริงมันไม่ได้มีอะไรมากกว่าคำว่า “มาสค็อต” เพราะกันเนอร์สซอรัสถูกออกแบบโดย ปีเตอร์ โลเวลล์ เด็กหนุ่มอายุ 11 ปี ในงานแข่งขันประกวดออกแบบมาสค็อตของสโมสรในปี 1993 และผลงานไดโนเสาร์กันเนอร์สของเขาก็ชนะรางวัล เรื่องทั้งหมดมันมีจุดเริ่มต้นที่ง่ายดาย แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้เป็นตำนาน

ที่แท้จริง ไม่ใช่หุ่นไดโนเสาร์ตัวสีเขียวหรอก แต่มันคือมนุษย์ผู้ทุกข์ทรมานในการรับบทมันมากกว่า ใส่เต็มที่เพื่องานที่เรารัก หุ่นมาสค็อตคงไม่มีค่า หากว่ามันไม่สามารถใส่จิตวิญญาณและความมีชีวิตชีวาลงไปได้ ดังนั้น ผู้ที่สวมใส่มันจะต้องรับภาระอันหนักอึ้ง เพราะอาชีพนี้ไม่มีทางที่จะได้รับค่าตอบแทนสูงตามสไตล์ผู้ทำงานเบื้องหลัง ใครก็ตามที่สวมใส่มัน พวกเขาจะต้องสวมวิญญาณการเป็นไดโนเสาร์ขี้เล่นและสร้างความสุขให้แฟนๆให้ได้ คงต้องขออนุญาตย้อนเล่าเรื่อง

ส่วนตัวกันสักนิด ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตัวผู้เขียนเคยมีประสบการณ์เป็นมาสค็อตตามงานอีเวนต์คอนเสิร์ตงานหนึ่งสมัยที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ และพบว่าอาชีพนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครคิด มันออกแนวทรมานร่างกายและจิตใจด้วยซ้ำ เมื่อเข้าไปอยู่ข้างในชุด ความยากลำบากแรกคือการขยับและเคลื่อนที่ เนื่องจากงานมาสค็อตนั้นจำเป็นจะต้องเดินไปตามที่ต่างๆ พบปะกับผู้คนในงานเพื่อให้ถ่ายรูปหรือให้เด็กๆได้เล่นอะไรก็ว่าไป แต่ภายในชุดนั้นมันทั้งแคบและร้อนมาก

UFABETWINS

อากาศหายใจบางเบาสุดๆ ยิ่งใส่นานเท่าไหร่ยิ่งชวนให้เป็นลมล้มพับลงไปเท่านั้น หากนึกภาพไม่ออกให้ลองนึกภาพตอนนั่งรถเมล์ลมตอนฝนตกที่คนแน่นๆและกระจกถูกปิด ความอึดอัดมันระดับเดียวกันชัดๆ ลำพังแค่หายใจยังยาก แต่งานหลักคือการเดินไปตามจุดต่างๆ โดยที่ความเทอะทะของชุดมาสค็อตนั้นทำให้มองไม่เห็นเท้าของตัวเองด้วยซ้ำไป ต้องให้คนคอยจับมือพาไป ซึ่งกว่าจะทำหน้าที่ครบ 1 ชั่วโมงนั้น สามารถใช้คำว่า “ทรมาน” ได้อย่างเต็มปาก เมื่อถอด

ชุดได้ก็เหมือนได้พบสวรรค์บนดินอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว สิ่งเดียวที่คิดได้เมื่อรับเงินและจบงานคือ “กูจะไม่รับงานมาสค็อตอีกเเล้ว” ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจนทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ เมื่อเป็นมาสค็อต ไม่มีใครรู้ว่าเราเหนื่อยขนาดไหน ไม่มีคำชมใดๆให้คนใส่ชุดมาสค็อต ดังนั้น ไม่ว่าจะพยายามเอ็นเตอร์เทนเท่าไหร่ คนก็จะพูดถึงตัวมาสค็อต ไม่ใช่ตัวผู้สวมใส่ ดังนั้น การที่ใครสักคนจะอยู่ในสภาวะที่เหนื่อยและทรมานในชุดๆนี้ได้นานถึง 27 ปี

แต่ละแมตช์เดย์เขาต้องสวมใส่ชุดกันเนอร์สซอรัสหลายชั่วโมง เขาต้องเป็นคนที่สัมผัสถึงความสุขบางอย่างที่คนอื่นๆไม่เคยพบเป็นแน่แท้ ผู้สวมใส่และรับบทบาทกันเนอ์สซอรัสตั้งแต่ปี 1993 จนถึงทุกวันนี้มีคนเดียวเท่านั้น และไม่มีใครที่จะสามารถมาแย่งหน้าที่ที่แสนทรมานนี้จากชายที่ชื่อว่า เจอร์รี่ คีย์ ไปได้ ย้อนกลับไปนานโขก่อนที่เขาจะมารับบทบาทมาสค็อตไดโนเสาร์ เจอร์รี่ คีย์ นั้นเป็นแฟนบอลเดนตายของอาร์เซน่อลที่ถือตั๋วปีมาตั้งแต่ปี 1963 หลังจากที่เขา

โตเป็นหนุ่ม เขาก็ได้งานทำในสโมสร โดยการเป็นคนขับรถและอยู่แผนกอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายพานักท่องเที่ยวทัวร์สนาม เรียกได้ว่าจับฉ่ายไปเรื่อย โดยรวมเเล้วเขาถือเป็นพนักงานระดับปฎิบัติการที่ไม่ได้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของแฟนบอลอะไร จนกระทั่ง กันเนอร์สซอรัส ถือกำเนิดในปี 1993 เขาตั้งใจรับหน้าที่สวมใส่มันเอง ด้วยปณิธานที่แน่วแน่ว่าไม่มีใครอีกเเล้วในโลกนี้ที่จะรู้จักอาร์เซน่อลและใส่จิตวิญญาณกูนเนอร์สลงไปในหุ่นไดโนเสาร์ได้เพอร์เฟ็กต์เท่ากับตัว

เขาเอง มาสค็อต และชีวิตของเจอร์รี่ในบทบาทใหม่นั้นยากลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย ขึ้นชื่อว่าอาชีพบริการขายความสุขแล้ว ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ต้องเอ็นจอยกับสถานการณ์จนกว่าจะจบหน้างาน กันเนอร์สซอรัสจะโดนแฟนบอลเด็กรุมทึ้งทั้งเกม บางคนดึงแขน บางคนดึงหาง บางครั้งก็ต้องรับมือกับผู้ใหญ่ที่เมาแอ๋ก่อนเกมเริ่มกระโดดเข้าใส่บ้าง แซวบ้าง ตุ๊ยท้องแบบหยอกๆ (แต่อาจจะเจ็บจริง) บ้าง จาก ไฮบิวรี่ ถึง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่ต้องสืบว่าพื้นที่ของสนาม

เหย้าทัพปืนใหญ่นั้นกว้างขวางขนาดไหน การใส่ชุดมาสค็อตที่มีน้ำหนักระดับ 10 กิโลกรัมหรือมากกว่านั้น และเดินไปรอบๆเพื่อเข้าไปหาแฟนบอลให้ได้มากที่สุด ต้องใช้คำว่า โคตรเหนื่อย ถึงจะเข้าแก๊ปมากที่สุด หากไม่ใช่คนที่รักในหน้าที่นี้จริงๆ เห็นที่จะต้องรีบถอดชุดออกและพอกันแค่นี้ หากเทียบความลำบากกับรายรับที่สวนทางกับความเหนื่อยล้าของร่างกาย อย่างไรก็ตาม อากัปกิริยาของกันเนอร์สซอรัสที่ทุกคนสัมผัสได้คือ เขายังคงคาแร็คเตอร์ความกวนเอาไว้ไม่

เปลี่ยนแปลง เจอร์รี่สวมวิญญานการเป็นมาสค็อตได้อย่างไร้ที่ติ โอบกอดเด็กๆที่มาขอถ่ายรูป กวนประสาทพวกขี้เมา หยอกล้อกลุ่มนักเตะของสโมสรเมื่อลงจากรถทัวร์สู่ห้องแต่งตัว มีนักเตะหลายคนที่ชอบเล่นกับเขาด้วย อาทิ เอียน ไรท์ ตำนานดาวยิงของทีมที่มักเข้ามาเป็นพิธีกรภาคสนาม เพราะเมื่อไรท์เห็นกันเนอร์สซอรัสทีไร เขาจะกระโดดปล้ำจนล้มกลิ้งล้มหงายแถมชกไม่ยั้งด้วยอารมณ์หมั่นเขี้ยว สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้พบเห็นเสมอ ภาพเหล่านี้คือสิ่งที่แฟนบอล

อาร์เซน่อลคุ้นตาเป็นอย่างดี ตลอดชีวิตการทำงานเป็นหุ่นมาสค็อต เจอร์รี่ทุ่มสุดตัวขนาดที่ว่าเขาเคยพลาดงานแต่งงานของพี่ชายตัวเองมาเเล้ว เนื่องจากในวันนั้นดันมีคิวตรงกับวันที่อาร์เซน่อลต้องเล่นเกมเหย้าซึ่งเป็นหน้าที่ที่เขาทิ้งไม่ได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสโมสรและหน้าที่ที่มีต่อเขาเป็นอย่างดี

 

คลิ๊กเลย >>>  https://www.ufabetwins.com/

อ่านข่าวเพิ่ม >>>  บ้านผลบอล